หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Review : THE MARTIAN การเอาตัวรอดอย่างอัจฉริยะ (9/10)

สวัสดีครับ กลับมาพบกันแล้วครับ สำหรับ #scmoviereview ซึ่งคราวนี้ก็เป็นคิวของภาพยนตร์ไซไฟตะลุยดาวอังคาร อย่าง THE MARTIAN ที่ทำให้ใครหลายๆคนนึงนึกถึง อภิมหาไซไฟปรัชญาไซไฟ อย่าง INTERSTELLAR ที่ Matt Damon เองก็ติดอยู่บนดาวเหมือนกัน แต่ถึงอย่างไร THE MARTIAN ก็เรียกว่าเป็นหนังไซไฟอีกพวกนึงเลยก็ได้ เพราะมันแฝงแง่คิด และความตลกเอาไว้อย่างลงตัวมาก




F**K YOU MARS!
credit 20th century fox

THE MARTIAN เป็นภาพยนตร์จาก Ridley Scott ผู้กำกับสายไซไฟเช่นกัน ที่มีผลงานอย่าง Alien และ Prometheus แต่แตกต่างที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่โคตรสนุก! และให้ความบันเทิง
เรื่องมันเกิดเมื่อ MARK WATNEY และ คณะเดินทางไปยังดาวอังคาร ในภารกิจ ARES 3 แต่ดันเจอพายุทรายที่รุนแรง จึงจำใจต้องยกเลิกภารกิจ แต่ MARK WATNEY ถูกชิ้นส่วนของเสาอากาศชน กระเด็นไป และตอนนั้นทุกคนก็คิดว่าเขาตายแล้ว แต่มันไม่ยอมตาย! MARK WATNEY จึงลุกขึ้นมาอีกครั้ง และหาวิธีติดต่อ กลับยังโลก และเอาตัวรอดให้ได้ (มีฉากให้ลุ้นอยู่เยอะนะ เรื่องนี้) การเอาตัวรอดของ MARK เริ่มต้นจากการพยายามติดต่อกลับมายังโลก โดยใช้รหัสอะไรสักอย่างนี่ละ แล้วมันก็เอาอึของคนอื่นที่ทิ้้งไว้มาปลูกต้นไม้บนดาวอังคาร ลองผิด ลองถูกมาเยอะ จนสุดท้ายก็ปลูกได้ "ณจุดๆนี้ ข้าเหนือกว่า Neli Armstrong!"


    สำหรับภาพยนตร์ THE MARTIAN นั้น ดำเนินเรื่องได้ค่อนข้างไว และก็ไม่อืดอาดเท่าไหร่ และก็มีมุขตลก และความขึ้เล่นของพระเอก ที่ทำให้เรื่องนี้สนุกอย่างไม่น่าเชื่อ! 
    งานด้านภาพและ vfx ก็สวยงามมากกก (ก อีกประมาณล้านตัวเลยย) ชนิดที่ว่าเหมือนเราได้อยู่ในดาวอังคารเลยละ 
    มีเนื้อหาที่พ่วงถึงยานอวกาศ และยานโรลเลอร์ที่ NASA ส่งไปที่ดาวอังคารแล้วด้วยนะ! 

แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การใช้วิทยาศาสตร์ในการเอาชีวิตรอด ทั้งการสร้างน้ำ บนดาวที่ไม่คิดว่าจะทำได้ โดยการผสมไฮโดรเจน กับไรสักอย่างนี่ละ แล้วมันก็ระเบิดไปครั้งนึง แต่ก็ชอบนะ 55 สุดท้ายก็ทำได้ แล้วก็อีกหลายๆตอนที่วิทยาศาสตร์ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ อย่าง IRON MAN อยากรู้คืออะไรไปดูเองนะ 55


MARK WATNEY
credit 20th century fox


คะแนนโดยรวม9/10 สนุก ได้สาระ แฝงปรัชญาและฮาอย่างลงตัว แต่อยากให้ลุ้นกว่ากว่านี้



ปล.ที่มาช้า ไม่ว่ากันนะ รักนะ ทุกคนที่รอ จุ้บ 55




วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

รีวิว Jurassic World พาไปเที่ยวชมสวนสนุกสุดสะพรึง (8/10)

สวัสดีครับ หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานเลย วันนี้ SC Movie Review ของเรากลับมาแล้วครับ กับภาพยนตร์ตะลุยสวนไดโนเสาร์สุดล้ำ อย่าง Jurassic World 
Jurassic World นี้เป็นเหตุการณ์หลังจากเรื่องราวใน Jurassic Park ถึง 22 ปี สำหรับสถานที่ในภาคนี้คือที่เดียวกับทีตั้งใน Jurassic  Park ภาคแรก ก็คือ เกาะ Isla Nublar นั่นเองครับ 


เกาะ ISLA NUBLAR

โดยหลังจากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อ 22 ปีที่แล้ว ได้มีบริษัท Masrani และ บริษัท Ingen เข้ามาพัฒนาและเปิดเป็นสวนสนุกอีกครั้ง พร้อมกับนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


HAMMOND CREATION LAB

และได้พัฒนาไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เสียงคำรามดังขึ้น และน่ากลัวกว่าเดิม! แต่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อไดโนเสาร์นั้น ดันหลุดออกจากกรงขัง มหกรรมล่าไดโนเสาร์จึงเกิดขึ้น


วิ่งสิ วิ่งง

สำหรับภาคนี้นั้น ได้พระเอก Chris Patt มาสวมบทเป็น Owen Gardy เป็นผู้ฝึกแรปเตอร์สุดเชื่อง 4 ตัว คือ Blue / Delta / Echo / Charlie 

ส่วนนางเอก ได้ Bryce Dallas Howard มาสวมบทเป็นพนักงานดูแลสวนสนุก ที่สมบุกสมบันมาก! รองเท้าส้นสูงสีแดง คือสัญลักษณ์ของเธอเลยก็ว่าได้ รองเท้าคู่นี้ใส่ไปได้ทุกที่ ขึ้นเขา ลงห้วย หรือแม้กระทั่งใส่วิ่งหนีได้โนเสาร์
โดยรวมภาพยนตร์ภาคนี้ มีความสนุกดีกว่าภาค 2 และ 3 ที่ผ่านๆมา แต่ก็ยังไม่อาจเปรียบเทียบกับภาคแรกได้ แต่ก็มีการดำเนินเรื่องอย่างตื่นเต้น และสนุกตลอดเวลา ทำให้ไม่น่าเบื่อ 


แล้วพบกันใหม่ ใน Jurassic World 2! ในปี 2017

คะแนนโดยรวม : 8/10
เป็นหนังที่เหมาะที่จะดูร่วมกับครอบครัว คนที่เรารัก เพราะเรื่องชวนให้ติดตามลุ้น
ระทึกตลอดเวลา ปล.ไม่ควรพลาดด้วยประการใดทั้งปวง

พบกับ #scmoviereview ใหม่สัปดาห์หน้า ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น รออ่านละกันครับ ขอโทศที่ช้า
ผมนั่งพิมพ์อยู่ 

ปล.2 ดีวีดี จูราสิค เวิลด์ ออกละนะ ไปหาซื้อกันได้ อุดหนุนของแท้นะครับ
ใครที่ซื้อแผ่นผีระวังง (อะไรวะ) เอาเถอะครับ เจอกันครับ แฮร่ !!!